ปี960 ถึง ปี1279
ราชวงศ์ซ่งสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ.960 สังคมที่เป็นปึกแผ่นนั้นนำมาซึ่งสภาวะทางเศรษฐกิจที่เจริญก้าวหน้า และด้วยนโยบายขั้นพื้นฐานแห่งรัฐ ที่ว่า “พลิกบู้ฟื้นบุ๋น” ซึ่งทำให้ศาสตร์ว่าด้วยจักรวาลวิทยาค่อยๆเข้ามามีบทบาทในด้านการเมืองการปกครองและมีอิทธิพลต่อการบริหารประเทศ แนวคิดด้านความสวยความงามของผู้คนจึงได้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ซึ่งหันมาสนใจเครื่องแต่งกายที่มีความประหยัดมากขึ้น ความเรียบง่ายและความสมดุลจึงกลายเป็นลักษณะเด่นของการแต่งกายในยุคซ่ง
“冠梳”妇女(宋人《娘子张氏图》)
通天冠服 ชุดมาลาทอดฟ้า (หมวกทงเทียน)
ชุดมาลาทอดฟ้าในสมัยซ่ง ประกอบด้วย เสื้อคลุมสีแดงเข้มปักลายเมฆาและลายมังกร ชุดผ้าบางสีขาว ทับทรวงสีขาว (ด้านบนโค้งด้านล่างเหลี่ยม สวมเป็นปลอกไว้ที่คอไม่ให้คอเสื้อยับ ซึ่งแฝงความหมายว่าฟ้ากลมดินเหลี่ยม) กระโปรงสีแดงเข้ม เข็มขัดทองประดับหยก แพรแถบห้อยหน้า (แถบผ้ารูปขวาน(บนเล็กล่างใหญ่)ที่ห้อยไว้ด้านหน้า) แถบหยกแขวนลัญจกร ถุงพระบาทสีขาว ฉลองพระบาทสีดำ และ หมวกมาลาทอดฟ้า ชุดมาลาทอดฟ้านี้เป็นเพียงเครื่องแต่กายในพระราชพิธีชุดรองเท่านั้น มิได้เป็นฉลองพระองค์ชุดหลัก
![]() |
戴通天冠、穿绛纱袍、佩方心曲领的皇帝(南薰殿旧藏《历代帝王像》) |
![]() |
黑舄图(根据文献记载及南薰殿旧藏 《历代帝王像》复原绘制)
ในเวลาที่พระมเหสีรับราชโองการ หรือร่วมงานพระราชพิธีของราชสำนักจะสวมชุดเฮวิย ชุดเฮวิยเป็นชุดที่ส่วนเสื้อและกระโปรงประกอบกันเป็นชุดเดียว ซึ่งเป็นชุดที่แสดงความงดงามของสตรีได้เป็นอย่างดี สวมเข้าชุดกับเก้ามังกรหงส์สี่ ด้านบนยังมีดอกไม้อีก ๑๒ กิ่ง ด้านข้างซ้ายขวาของมงกุฎมีใบประดับข้างละสองช่อ เรียกว่า โป๋ปิ้น หรือ
เหยี่ยนปิ้น
皇帝冕服图/皇后袆衣图 |
戴龙凤珠翠冠、穿袆衣的皇后 |
幞头หมวกฝู
หมวกฝูเป็นที่นิยมอย่างมากในยุคซ่ง สมัยนี้ฝูโถวทำโครงภายในด้วยไม้ ด้านนอกเป็นผ้าย้อมสี ซึ่งมีความเรียบง่ายและสวยงาม ส่วนหางรูปร่างตรงค่อนข้างเป็นที่นิยม ซึ่งก็คือการทำให้ชายหางด้านหลังเหยียดยาวตรงออกไป นอกจากนั้นยังมีหางหมวกฝูรูปแบบหางไขว้ หางพลิก หมวกฝูหางไขว้ก็คือหางทั้งสองข้างชี้ไปในทิศกลับกันก็คือไขว้กันไว้ ส่วนหมวกฝูหางพลิก ก็คือปลายหางทั้งสองพันสลับข้างกันแล้วเอียงชี้ลง
戴直脚幞头的皇帝(南薰殿旧藏《历代帝王像》) |
扎巾、穿袍衫的士人 (宋人《松阴论道图》局部) |
戴束发冠、穿对襟衫的皇帝与戴幞头的官吏 (赵佶《听琴图》局部)
|
戴软脚幞头、穿圆领袍衫的文吏 |
背子 ชุดเป้ยจึ
ชุดเปยจึในสมัยซ่ง เป็นชุดที่มีแขนยาว ลำตัวชุดยาว ไม่มีการแหวกข้าง ชิ้นส่วนด้านหน้าและด้านหลังบริเวณใต้รักแร้ไม่ได้เย็บแบบเสื้อผ้าทั่วไป ซึ่งชุดเปยจึนี้ได้เลียนแบบมาจากเสื้อผ้าในยุคโบราณ ในส่วนใต้รักแร้และส่วนหลังจะตกแต่งด้วยแถบผ้าที่ใช้สำหรับประดับ ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อที่จะสื่อถึงการ “ไม่ลืมความดั้งเดิม” นั้นเอง และเพราะคนที่สวมเสื้อผ้าชุดนี้มักจะยืนอยู่ด้านหลังเจ้านาย จึงเรียกว่า เปยจึ แปลว่า ด้านหลัง
ราชวงศ์ซ่งสถาปนาขึ้
穿背子的贵妇(宋人《瑶台步月图》)
|
太原市晋祠圣母殿北宋彩塑侍女立像,梳盘髻,穿衫裙、背子
|
穿背子的杂剧女演员 (宋人《杂剧人物图》)
|
裙 กระโปรง
กระโปรงในยุคซ่งทั้งมีแบบ หกจีบ แปดจีบ และสิบสองจีบ ลักษณะโดยทั่วไปคือมีการพับจีบจำนวนมาก บนเนื้อผ้ากระโปรงมีการตกแต่งอย่างหลากหลายมากมาย เช่น ตกแต่งด้วยการปักลาย ย้อมสีต่างๆ มีการปักด้วยดิ้นทอง หรือประดับด้วยไข่มุก เป็นต้น โดยกระโปรงสีเหลืองทองที่ใช้หญ้าแฝกย้อมจะมีค่าและงดงามมากที่สุด กระโปรงสีแดงจะสวมใส่โดยนางระบำหรือนักร้องเพลง และกระโปรงสีทับทิมมีชื่อเสียงมากที่สุด
穿窄袖短襦的宫女 (山西太原晋祠圣母殿彩塑) |
穿襦裙、披帛的宫女 (山西太原晋祠圣母殿彩塑) |
插簪钗、穿襦裙、披帛的妇女(宋人《妃子浴儿图》)
|
冠饰 หมวกกวานซื่อ
ผู้หญิงสูงศักดิ์ในยุคราชวงศ์ซ่งจะสวมกวานชื่อคลุมศีรษะ โดยมีฮวากวานเป็นแบบอย่างพื้นฐาน ยุคนี้กวานก็มีขนาดสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ส่วนของประดับก็มากมายหลายหลาก กวานบางอันก็สูงถึง ๑ เมตร และมีความกว้างเท่ากับไหล่คนเลยทีเดียวด้าน หลังของหมวกกวานมักมีชายห้อยถึงบ่า เครื่องประดับส่วนบนก็มีทั้ง เงิน ทอง มุก มรกต ขนนกกระเต็น ดอกไม้นานาชนิด หวีอำพัน เป็นต้น ผู้หญิงที่สวมหมวกกวานซื่อซึ่งใหญ่เทอะทะแบบนี้แล้วต้องไปนั่งเกี้ยว อาจจะต้องเอียงศีรษะของนางถึงจะสามารถเข้าเกี้ยวได้
戴凤冠、穿衫裙、挂缨络的妇女(山西永乐宫三清殿壁画)
花子 ฮวาจึ
การเขียนหน้าฮวาเตี้ยนในสมัยถังได้สืบทอดมาจนถึงสมัยซ่ง ซึ่งเรียกว่า กลีบผกา ก็คือการแปะไหมทองหรือกระดาษสีที่ตัดเป็นลวดลายไว้กลางหน้าผากและพวงแก้มทั้งสองข้าง ด้านหลังของ ฮวาจึ แปะกาวที่ผลิตจากน้ำในแม่น้ำเหลียว ซึ่งเป็นกาวที่ใช้ลอกและแปะใหม่ได้ตามใจ
戴花冠的宋代妇女
(南薰殿旧藏《历代帝后图》局部)
发髻 ทรงผม
สตรีชาวซ่งจะทำผมทรงที่ทั้งสูงทั้งใหญ่ ทรงผมที่นิยมก็มีหลากหลาก เช่น ทรงเสามังกร ทรงปาเจียว ทรงเผชิญนภา ทรงจานใหญ่ เป็นต้น สาววัยรุ่นจะทำผมสองห่วง ก็คือแต่งผมให้มีวงตรงกลางใหญ่ๆสองวง ห้อยไว้ข้างกกหู และเวลาจัดทรงผมก็มักจะเพิ่มผมปลอมเข้าไปด้วย หรือใช้ทรงผมวิกซึ่งประดับตกแต่งด้วยมรกต ผ้าไหมสีต่างๆ ตรงกลางก็ใช้ปิ่นหยกหรือตาข่ายผ้าไหมจัดให้ผมอยู่ทรง
江西景德镇市效宋墓出土瓷俑, 梳单鬟髻,插大梳,加珠翠为饰 |
太原市晋祠圣母殿北宋元佑二年 (公元1087年)彩塑侍女像 |
宋襦裙 ชุดกระโปรงหยรู (ของซ่ง)
เนื่องจากสมัยซ่งได้รับการสืบทอดกระโปรงหยรูจากสมัยถัง และได้กลายมาเป็นเสื้อผ้าที่ผู้หญิงชาวซ่งสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และเนื่องจากการรับอิทธิพลการแต่กายของชนกลุ่มน้อย สาบเสื้อของชุดหยรูยุคนี้จะอยู่ทางซ้ายหรือทางขวาก็ได้ บริเวณส่วนกลางของสายรัดเอวมักแขวนห่วงกลมๆที่ทำมาจากหยก เรียกว่า สายห่วงหยก ซึ่งใช้สำหรับกดจีบกระโปรงให้อยู่ที่เดิม ทำให้เวลาเดินเหินไม่ถูกลมพัดกระโปรงบานแต่ก็ทำให้หยกไม่ได้แสดงความสวยงามของตัวเองอย่างที่ควร
穿襦裙的农村妇女 (宋人《孟母教子图》) |
穿长袖襦的宋代妇女(重庆大足宋代石刻) |
การแต่งกายของสามัญชน
วิถีชีวิตของผู้คนในสังคมสมัยซ่งมีความเป็นอยู่ที่ดีเป็นอย่างมาก ผู้คนชนชั้นต่างๆในสังคม ไม่ว่าจะเป็น ขุนนางข้าราชการ พ่อค้าวานิช แพทย์ เกษตรกรชาวนา สารถี นักบวช นักวิชาการ คนแจวเรือ หรือศิลปิน ต่างก็มีการแต่งกายที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็สวมชุดกระโปรง สวมพีเปย บ้างก็ทำผม บ้างใช้ผ้ามัดมวยผม บ้างสวมค่อนข้างเป็นระเบียบ บ้างก็แต่งตัวตามใจตน
穿长裤的劳动妇女(传王居正《纺车图》局部)宋太平街景图,现藏美国芝加哥艺术学院 |
宋太平街景图,现藏美国芝加哥艺术学院 |
รองเท้าบัวทอง ๓ นิ้ว
รองเท้าบัวทอง ๓ นิ้ว ก็คือรองเท้าที่สวมหลังจากมัดเท้า ในสมัยซ่ง ประเพณีการมัดเท้าเริ่มได้รับความนิยมแล้ว เมื่อเวลาที่การมัดเท้าได้รับความนิยมที่สุด รองเท้าบัวทอง ๓ นิ้วก็ค่อยๆเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น
缠足妇女(宋人《搜山图》局部)
ชุดเกราะ
ชุดเกราะสมัยซ่ง ประกอบด้วย เสื้อเกราะ เกราะไหล่ เกราะขา และส่วนอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งชุดเกราะเหล่านี้ได้รับอิทธิพลมาจากชุดเกราะพื้นฐานในสมัยถัง ซึ่งรับมาและปรับเปลี่ยนรูปแบบเล็กน้อย ต่อมาในยุคซ่งใต้ ได้มีการประดิษฐ์คิดค้นดินปืนขึ้น การพัฒนาชุดเกราะจึงมีการจำกัดมากกว่าเดิม
穿铠甲的武士 (敦煌莫高窟55窟彩塑) |
戴盔帽、穿铠甲的武士 (宋人《三顾草庐图》局部) |
《武经总要》辑录的宋代胄甲图式(选自明刻本《武备志》) |
ลวดลายสมัยซ่ง
จากการรับอิทธิพลการประกอบลายด้วยลายปักษาและพฤกษาพรรณ ทำให้องค์ประกอบของลายบนเสื้อผ้าชาวซ่งและเทคนิควิธีการประกอบลายมีความแตกต่างจากสไตล์ของชาวถัง ที่เห็นได้ทั่วก็คือ การประกอบลายด้วยทรงแปดเหลี่ยม โครงสร้างลายกลุ่มดอกโบตั๋นบนก้านหรูอี้ ลายสัตว์เช่น ลายสิงโต ลายม้าบิน ลายรูปทรงเรขาคณิต เช่น ลายหลังเต่า ลายสี่เหลี่ยมคู่ (ลักษณะ ) เป็นต้น ลายต่างๆพวกนี้มีโครงพื้นฐานเป็นเถาดอกไม้ซึ่งนำดอกไม้ในแต่ละฤดูการมาประกอบเข้าด้วยกัน หมายถึง “ทิวทัศน์ทั้งปี” การประกอบลายเช่นนี้ได้มีอิทธิพลต่อลายยุคต่อๆไปในอนาคตด้วย
福州南宋黄升墓出土的一年景花卉绶带及双凤纹金佩 |
江西德安南宋周氏墓出土折枝茶花纹亮地纱
|