ปี 581 ถึงปี 960
ปีคริสต์ศักราช ๕๘๙ ในยุคราชวงศ์สุยมีการรวมรวมประเทศขึ้นอีกครั้ง และจึงค่อยๆฟื้นฟูระบบการแต่งกายในสมัยยุคฉินและยุคฮั่นขึ้น ยุคสุยได้นำ “สุริยัน จันทรา ดาราราย” และลวดลายอื่น ๆ กลับมาประดับบนฉลองพระองค์ในพระราชพิธีของพระจักรพรรดิอีกครั้งหนึ่ง จากตอนนี้ “สุริยันจันทราประทับพาหา (บ่า) ดารารายพร่างพายกลางขนอง (หลัง)” ก็ได้กลายเป็นพื้นฐานของฉลองพระองค์ในยุคต่อๆมา ค.ศ. ๖๑๘ ได้มีการสถาปนาราชวงศ์ถังซึ่งทำให้ประเทศจีนมีประสิทธิภาพและเจริญรุ่งเรือง ประเทศมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล การปกครองเป็นเอกภาพ มีการติดต่อและแลกเปลี่ยนกับต่างชาติมากมาย วัฒนธรรมและศิลปะเจริญรุ่งเรืองเป็นประวัติการณ์ วัฒนธรรมการแต่งกายก็แสดงออกได้อย่างไม่อายใคร โอ่อาหรูหรา
唐代大袖衫
ชุดเสื้อเอวสั้นป้านปี้และกระโปรงนางฟ้า
ในช่วงปี ค.ศ. 605-617 สาวๆชาวสุยนิยมสวมป้านปี้ ซึ่งก็คือเสื้อแขนสั้นที่สวมทับเสื้อแขนยาว (คล้ายเสื้อกั๊ก) และสวมกระโปรงที่ใส่คู่กับป้านปี้ เรียกว่า กระโปรงนางฟ้าหรือเรียกอีกอย่างว่า กระโปรงสิบสองจีบ เป็นกระโปรงที่มีชายกระโปรงค่อนข้างกว้าง เวลาที่แต่งกายลักษณะนี้ สาวๆทั้งหลายมักสวมหมวกตาข่ายผ้าไหมซึ่งเป็นผลจากการรับอิทธิพลการแต่งกายของชนเผ่าทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ
隋彩绘仆侍陶俑群,梳平云髻,小袖衫,高胸裙,河南博物院藏 |
陕西西安出土隋彩绘女俑,小袖衫,高腰裙 |
|
额黄妆、穿裙的妇女 |
![]() |
穿襦裙、半臂、披帛的宫廷侍女(陕西乾县李山蕙墓壁画) |
เสื้อและชุดคลุมคอกลม
เสื้อและชุดคลุมคอกลมพัฒนามาจากชุดเซินอี(ชุดพิธีการแบบวัฒนธรรมฮั่น)ในสมัยโบราณและเป็นเสื้อผ้ารูปแบบหลักของผู้ชายในสมัยถังด้านหน้าและด้านหลังต่อกันเป็นชิ้นเดียว บริเวณคอเสื้อ แขนเสื้อ ต่างมีการขลิบริม ด้านล่างของคอเสื้อด้านหน้า มักปะด้วยแถบผ้าตามแนวนอน คาดเอวให้แน่นด้วยเข็มขัด บนศีรษะสวมหมวกฝู สวมรองเท้าหุ้มข้อ ชุดคอกลมแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือแขนกว้างและแขนแคบ แขนแบบแคบเหมาะสำหรับเวลา
ต้องการความคล่องแคล่ว แขนกว้างนั้นแสดงถึงความทันสมัยและความหรูหรา
หมวกโพกหัว
แรกเริ่มเดิมทีนั้น ผู้คนใช้ผืนผ้าพันหัวจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อให้ผมอยู่ทรง และปล่อยชายผ้าที่ขมวดปมทั้งสองข้างไว้ด้านหลัง ปล่อยให้ห้อยอย่างอิสระ ส่วนปลายผ้าอีกสองฝั่งก็ขมวดขึ้นไปบนหัวแล้วมัดไว้ข้างบนนั้น ซึ่งเป็นลักษณะของหมวกฝูในระยะเริ่มแรก ภายหลังก็ได้เพิ่มสายผ้าเข้าไปแล้วมัด จากนั้นปล่อยให้ห้อยไหวพลิ้วอยู่ด้านหลัง ซึ่งมีลักษณะของการตกแต่งอย่างชัดเจน ต่อมาก็ตกแต่งหางหมวกฝูเป็นทรงหลากหลายรูปแบบ กลมบ้างกว้างบ้าง ทั้งยังใช้สายลวดหรือสายทองแดงทำเป็นโครงที่ปลายห้อยนั้นซึ่งทำให้รูปแบบหางของหมวกฝูเปลี่ยนไปต่างๆนาๆตามแต่ผู้ใช้
![]() |
纱罗幞头图 (根据传世绘画及出土陶俑复原绘制)
|
裹幞头、穿圆领袍衫的帝王及官吏 (阎立本《步辇图》) |
裹幞头、穿圆领袍衫、乌皮靴的官吏(陕西乾县李重润墓壁画) |
冕冠衣裳
唐代皇帝的服饰,在继承前代冕冠、冕服的基础上,又有了更加长足的发展,服饰形态更加丰富、完备,在服饰的细节处理上也更加精细入微。
มาลามงกุฎและชุดพิธี
ฉลองพระองค์ของพระจักรพรรดิในราชวงศ์สุยคือ เหมี่ยนกวาน(มาลามงกุฎ)ที่ได้สืบมาจากราชวงศ์ก่อนๆและลักษณะพื้นฐานของฉลองพระองค์ที่พัฒนาให้ยาวลงมาถึงพระบาทและลักษณะมีความสมบูรณ์ ครบถ้วน ทั้งยังมีรายละเอียดที่หลากหลายมากขึ้น
戴冕冠、穿晚服的皇帝及戴龙冠、穿礼服的侍臣 (阎立本《历代帝王图》) |
穿便服的帝王 (阎立本《历代帝王图》局部) |
ชุดเสื้อและกระโปรงเกาะอกสมัยถัง (กระโปรงหยรู)
เสื้อหยรูสมัยถังเป็นเสื้อผ้าเจี่ยหรือเสื้อผ้าฝ้ายที่มีขนาดสั้นและไม่ยาวมาก บริเวณคอเสื้อและปลายแขนเสื้อตกแต่งด้วยลายดิ้นทองหรือประดับด้วยงานปัก หรือปักลายด้วยผ้าตาดสีแดง ซึ่งการประดับตกแต่งเช่นนี้ทำให้เครื่องแต่งกายมีความหรูหราฟู่ฟ่า และกระโปรงยุคถังนี้ส่วนมากเอวสูงหรือรัดอก รัดสะโพก และชายกระโปรงกว้างยาวลากพื้น และมีลักษณะเป็นกระโปรงจีบทรงกระบอก
穿襦裙或袍衫的贵妇及侍女(张萱《虢国夫人游春图》局部) |
穿襦裙、披帛的妇女(顾闳中《韩熙载夜宴图》局部) |
穿襦裙及半臂的初唐宫女(陕西乾县唐永泰公主墓壁画) |
穿大袖纱罗衫、长裙、披帛的贵妇 (周昉《簪花仕女图》局部) |
ผ้าคลุมไหล่ผ้าไหม (เพ่ยโป๋)
เพ่ยโป๋ก็คือผ้าพันคอยาว ส่วนมากทำมาจากผ้าไหมพิมพ์ลาย ใช้สวมคลุมไหล่ผู้หญิง รูปแบบที่เต็มไปด้วยลวดลายและมันเงาสะท้อนแสงนั้นมีให้เห็นมากที่สุด ซึ่งใช้พาดไหล่ปล่อยให้ชายทั้งสองห้อยลงมาที่แขนให้แถบหนึ่งยาว แถบหนึ่งสั้น บ้างก็นำปลายทางขวาผูกไว้กับสายรัดเอว ส่วนอีกปลายหนึ่งก็คลุมอ้อมหน้าอกผ่านไหล่ไปด้านหลังให้ห้อยพลิ้วอยู่ด้านหลัง บ้างก็นำปลายทั้งสองข้างพันไว้ที่หน้าอก ผู้หญิงที่สวมผ้าคลุมไหล่ เวลากรีดกายย่างก้าวนั้น ปลายผ้าไหมก็จะสะบัดพลิ้วตามแรงลม ดูงดงามยิ่งนัก
敦煌莫高窟375窟初唐供养人, 高腰宽摆长裙,肩披帔帛 |
穿薄纱大袖衫,高腰裙,披帛,高髻簪花的仕女 |
เสื้อแขนใหญ่
ต้าซิ่วซาน เป็นเครื่องแต่งกายของผู้หญิงในสมัยถัง เนื่องจากเป็นเสื้อที่แขนมักกว้างกว่า1.3เมตร จึงถูกเรียกว่า ‘ต้าซิ่วซาน’ (เสื้อแขนใหญ่) ต้าซิ่วซานตัดเย็บมาจากผ้าเนื้อบางโปร่งแสงซึ่งประดับรูปภาพที่งดงาม ผู้หญิงสวมใส่ต้าซิ่วซานเพื่อที่จะแสดงออกถึงความสง่างามและแสดงความมีฐานะของตน
![]() |
หมวกม่านและหมวกม่านตาข่าย
ในระยะแรก หมวกม่านตาข่ายและหมวกม่านใช้สำหรับป้องกันฝุ่นหรือเศษทราย ภายหลังได้กลายเป็นที่ปิดบังใบหน้าที่สาวๆนิยมใช้ คือใช้เป็นม่านบังไม่ให้คนที่ผ่านไปผ่านมามองลอดเข้ามาเห็นได้ หมวกม่านมี่หลีใช้ผ้าซาหลัวโปร่งแสงห้อยลงมาจากจากปีกหมวก อาจจะปล่อยยาวคลุมทั้งร่างกาย หมวกเหวยเม่าคือหมวกที่ใช้ตาข่ายล้อมทุกด้านจากปีกหมวก และห้อยลงมาถึงคอ มักประดับลูกปัดไว้ที่ตาข่ายนี้ด้วย
戴帷帽、穿襦裙的妇女 (唐三彩俑,传世实物,原件现藏上海博物馆) |
戴搭耳蕃帽的唐代妇女 (新疆吐鲁番阿斯塔那唐张礼臣墓出土屏风绢画) |
戴面幕的唐代妇女 (日本东京国立博物馆藏唐人) 《树下人物图》 |
![]() |
(
เสื้อผ้าชาวอุยกูร์
อุยกูร์คือชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เครื่องแต่งกายของสตรีชาวอุยกูร์นั้นส่งผลกระทบต่อเครื่องแต่งกายของสตรีชาวฮั่นในยุคราชวงศ์ถังเป็นอย่างมาก พื้นฐานของเสื้อผ้าผู้หญิงชาวอุยกูร์จะเป็นแบบกระโปรงและเสื้อติดกันเป็นชุดเดียว ปกคอพับเป็นปก แขนเสื้อเล็ก ส่วนลำตัวค่อนข้างหลวม และรัดสายรัดที่เอวโดยทั่วไปบนปกเสื้อและแขนเสื้อมักจะประดับด้วยลายหงส์อัคนีและบุบผาชาติ ผู้หญิงที่สวมเสื้อลักษณะนี้มักจะต้องทำผมทรงอุยกูร์ ประดับดอกไม้หยก ปิ่นคู่ สวมมงกุฎหงส์ และสวมรองเท้าหัวคทา
![]() |
戴凤纹回鹘冠的妇女 (敦煌榆林窟16窟壁画,张大千摹) |
![]() |
梳回鹘髻、戴金凤冠、穿回鹘装的晚唐贵妇 (甘肃安西榆林窟壁画,张大千临摹) |
การแต่งหน้าของสาวชาวถังมีลำดับดังนี้คือ
1.ทารองพื้น 2.ปัดแก้มแดง 3.เขียนคิ้ว 4.ทาลิปสติก 5.แต้มจุดลักยิ้ม 6. ติดฮวาเตี้ยน
และใช้วัสดุสีดำสำหรับเขียนคิ้วให้ดูเข้ม สำหรับคิ้วที่บางละเอียดและยาว เรียกว่า ไต้เหมย
คิ้วที่หนาและใหญ่ เรียกเอ๋อเหมยซึ่งบางครั้งเรียกว่า กว่างเหมย
饰桃花妆的妇女 (唐人《弈棋仕女图》局部) |
经过妆点的妇女唇式 (新疆吐鲁番唐墓出土《弈棋仕女图》局部) |
ดอกไม้โลหะ (ที่ใช้แปะหรือวาดบนใบหน้า)
เล่ากันว่าในสมัยยุคราชวงศ์เหนือใต้ มีองค์หญิงอยู่องค์หนึ่ง วันหนึ่งก็ได้แอบเข้านอนหลับไปในห้องใต้หลังคาพระราชวัง กลีบดอกเหมยสีสดที่ถูกลมตีให้ล่องลอยอยู่ในอากาศก็ได้หล่นลงมาที่หน้าผากนวลๆของนาง หลายวันผ่านไป กลีบดอกเหมยที่ติดอยู่กลางหน้าผากนั้นก็ไม่ยอมลอกหลุดลอกออกไปเสีย แต่นั่นก็กลับกลายเป็นว่าเป็นการเพิ่มความงามให้องค์หญิง ไม่นานจากนั้น บรรดาสาวๆในพระราชวังก็ได้ทำตามองค์หญิงโดยการนำสีมาวาดเป็นรูปหรือลายต่างๆลงไปที่หว่างคิ้ว และมีบางคนก็ถึงขนาดกับนำแผ่นทองมาติดที่หว่างคิ้วกันเลยทีเดียว ซึ่งได้กลายมาเป็นหนึ่งในแฟชั่นการแต่งหน้าที่นิยมของบรรดาสาวๆทั้งหลายในยุคถัง
穿襦裙及联珠纹锦半臂的唐代妇女 (新疆吐鲁番阿斯塔那唐墓出土泥头木身著衣俑) |
ทรงผม
ทรงผมของสตรีชาวถังมีมากมายหลากหลาย เช่น ทรงมวยครึ่งหัว ทรงจิงกู่(ผมสองช่อคล้ายโบ) ทรงสองห่วง ทรงยอดเอียง ทรงใจเดียว ทรงวอตว้อ และทรงอุยกูร์ ลักษณะเด่นของทรงผมเช่นนี้คือมีขนาดสูงกว้างใหญ่ ขณะจัดแต่งทรงผมอาจใช้ผมปลอมหรือผมปลอมที่จัดทรงแล้วมาประดับเพิ่ม และนอกจากนี้เครื่องประดับบนผมก็ยังมีมากเหลือคณาเช่นกัน เช่น ปิ่นเงิน หวีงา ลูกปัดเงินทองหรือดอกไม้ขนนกกระเต็น ปิ่นหงส์คู่ประกอบตุ้งติ้ง และเครื่องประดับอื่นๆที่ละเอียดงดงาม สุกใสเป็นประกาย
![]() |
梳双鬟望仙髻的妇女 (陕西西安羊头镇唐李爽墓出土壁画) |
![]() |
梳三角髻的妇女(河南洛阳涧西谷水第六号唐墓出土三彩俑) |
||
梳双垂髻的妇女 (新疆吐鲁番唐墓出土《弈棋仕女图》局部) |
![]() |
梳回鹘髻的回鹘族妇女 (甘肃安西榆林窟五代壁画,张大千摹)
|
![]() |
||
เข็มขัดเต๋ย์เซ่ย์
เข็มขัดเข็มขัดเต๋ย์เซ่ย์เป็นเข็มขัดที่บุรษสมัยสุยและถังคาดเอวไว้ ซึ่งมักแขวนสิ่งของเล็กๆน้อยๆไว้ด้วย เข็มขัดชนิดนี้คือเข็มขัดที่มีแถบหนังยื่นออกมาใช่ห้อยสิ่งของเล็กๆ เช่นมีด หินไฟ(ใช้กะเทาะจุดไฟ) กระบอกเข็ม และของใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆรวม ๗ สิ่ง วัตถุประดับที่ประดับอยู่บนเข็มขัดเต๋ย์เซ่ย์ จะมากจะน้อยนั้น ต่างก็เป็นการแสดงฐานะของผู้สวมใส่
![]() |
(根据出土陶俑、石刻、壁画复原绘制) |
蹀躞带饰四种 |
เสื้อผ้าชาวต่างชาติ (ชาวฮั่นเรียกชนชาติทางตะวันตกที่ไม่ใช่ฮั่นว่าหู)
เสื้อผ้าของชาวหูในสมัยถัง ก็คือเครื่องแต่งกายของชนกลุ่มน้อยทางภาคตะวันตก อินเดีย เปอร์เซีย และประเทศอื่นๆ สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยๆจากเสื้อผ้าชาวหูคือปกเสื้อพับ แขนเสื้อเล็ก กางเกงขาลีบ รองเท้านิ่มที่ระบายอากาศได้ดี และหมวกหุนทวอที่งดงาม และมีบ้างที่สวมเข็มขัดเต๋ย์เซ่ย์
梳髻、穿翻领胡服的妇女 |
戴胡帽、穿胡服、 佩蹀躞带的人物 (陕西西安出土三彩俑) |
戴胡帽、佩蹀躞带的妇女(陕西西安出土石刻摹本) |
เครื่องแต่งกายทางนาฏศิลป์
นาฏศิลป์ในสมัยถังแบ่งเป็น ๒ แบบที่แตกต่างกัน แบบแรกคือ ฟ้อนนุ่ม (หรวนอู่ หรือ เหวินอู่) ซึ่งเป็นการแสดงของชาวฮั่น ท่าทางอ่อนโยน เหยียดแขนและขาออกไปเนิบๆ ค่อยๆเคลื่อนไหว กรีดกายย่างเยื้องช้าๆ เสื้อผ้าที่สวมก็หลวมบางเบา สวยหรูสง่างาม ซึ่งมักเป็นเสื้อแขนกว้าง อีกประเภทหนึ่งก็คือ รำแกร่ง เป็นการแสดงในกลุ่มของชาวหู ท่าทางขึงขัง คึกคะนอง หมุนไปหมุนมา เสื้อผ้าที่สวมมีลักษณะคล้ายกับชุดหู คือ เป็นชุดรัดรูป แขนเล็ก
著帔肩的唐代舞姬 |
![]() |
เครื่องแต่งกายในกองทัพ
เครื่องแต่งกายในกองทัพสมัยถังก็คือ “นายพลสวมผาว ทหารเลวสวมอ่าว” บนเครื่องแต่งกายของนายพลจะปักลายสิงโตและเสือ เพื่อแสดงถึงความกล้าหาญเกรียงไกร ส่วนเสื้อเกราะยุคถังนี้ก็มีมากถึง ๑๓ แบบด้วยกัน การเรียงเกล็ดของแผ่นเกราะก็เช่น แบบเกล็ดเล็ก แบบภูเขา แบบล็อก วัสดุที่ใช้นั้นก็มี แผ่นโลหะ แผ่นหนังและผ้าไหม อาจจะพูดได้ว่าตั้งแต่รูปแบบและเทคนิคที่ใช้ประดิษฐ์เสื้อเกราะสมัยถังนี้มีการพัฒนาที่รุดหน้ากว่าอดีตมากนัก
穿胄甲的初唐武将 (陕西礼泉郑仁泰墓出土加彩陶俑) |
穿绢布甲的唐代武士(新疆吐鲁番阿斯塔那出土彩绘木俑) |
初唐胄甲(甘肃敦煌莫高窟194窟彩塑) |
ลวดลาย
ลักษณะของลวดลายที่ได้รับความนิยมช่วงสมัยสุยคือ มีลักษณะกลม สีสันสดใส มีแกนลายเด่น สว่างสดใส ลายแบบกลมๆค่อนข้างมาก หนึ่งในลายที่ได้รับนิยมก็เช่น ลายกรอบล้อมบุบผา ลายรังมุก ลายลุ่ยจิ่น เป็นต้น ลายกรอบล้อมบุบผา ก็คือดอกไม้บาน ดอกตูม กลีบดอก และใบที่มีกรอบล้อมรอบซึ่งจัดวางอย่างสมมาตรมีความเป็นเอกภาพ สง่าสวยงาม และเป็นที่รู้จักของคนมาช้านาน