เครื่องประดับศีรษะสตรีชิ้น ใช้เทคนิกดที่เรียกว่า เตี่ยนชุ่ย (点翠) คือการนำขนนกกระเต็นมาประดับโครงไหมกับเงินชุบทองกับอัญมณี เอกลักษณ์ของเตี่ยนชุ่ยต้องประดับด้วยขนนกกระเต็นสีฟ้า เป็นงานฝีมือละเอียดละออมาก เดี๋ยวนี้หาผู้ทำได้ยากแล้ว
เป็นของ The Walters Art Museum บรรยายไว้ว่า "น่าจะ" เคยเป็นของซูสีไทเฮา ซึ่งดูจากการประดับประดาแล้วน่าจะเป็นของหลวงได้ แต่จะเป็นของซูสีไทเฮาหรือไม่นั้นไม่ชัวร์ ทางพิพิธภัณฑ์ได้มาเมื่อปี 1907 ดังนั้น โอกาสที่จะได้มา คือช่วงที่กองทัพพันธมิตร 8 ชาติบุกปักกิ่ง ปล้นพระราชวังหลวงในปี 1900 ครั้่งนั้นทหารฝรั่ง/ญี่ปุ่นปล้นทรัพย์สินล้ำค่าไปได้ไม้น้อย
ทรัพย์พระราชวังหลวงกู้กงถูกปล้นบ่อยครั้ง แม้เมื่อเร็วๆ นี้ก็ยังไม่รอด ช่วงที่ผู่อี๋ จักพรรดิองค์สุดท้ายทั้งฮ่องเต้ทั้งขันที ช่วยกันฉกของล้ำค่าไปขายบ่อยๆ ช่วงที่เจียงไคเช็กขนย้ายสมบัติระดับมาสเตอร์พีซหนีญี่ปุ่น ก็ถูกมือดีฉกไปขายอีกหลายรอบ ถึงขนาดนี้แล้วยังเหลือสมบัติอีกบานตะไท
ส่วนสมบัติในสุสานของซูสีไทเฮา ถูกขุนศึกซุนเตี้ยนอิงบุกปล้นในปี 1928 ของล้ำค่าในสุสานมีละลานตา ส่วนใหญ่เป็นไข่มุกและหยกประเภทต่างๆ รวมถึงเตี่ยนชุ่ยชิ้นหนึ่งประดับด้วยขนนกกระเต็น ทำโครงด้วยเงินชุบทองประดับมุกกับกัลปังหาแต่ในบัญชีของในสุสานบอกว่าเตี่ยนชุ่ยของไทเฮาทำเป็นรูปหัวมังกร (อ้างอิงจากหนังสือ 古墓探秘)